https://iphonephotographyschool.com/mobile-photography-tips/
คุณต้องการถ่ายภาพที่ทำให้คนต้องตะลึงหรือไม่ก็ยิงถาพบมือถือที่อาจจะดูเป็นเรื่องที่น่าสนใจและไม่เหมือนใครถ่ายภาพในแบบที่คุณไม่เคยคาดคิดมาก่อนเพียงแค่ทำตามเทคนิค 12 อย่างเรา จะพูดถึงภาพของคุณจะดูดีขึ้นมาอย่างแน่นอ
เนื่องจากโทรศัพท์มือถือของคุณมักจะอยู่ในมือ ในกระเป๋า หรือในกระเป๋ากางเกงเป็นส่วนใหญ่ เลนส์ของกล้องเลยมักจะถูกปกคลุมไปด้วยสิ่งสกปรก ฝุ่น รอยนิ้วมือต่างๆ
เลนส์ที่สกปรกจะทำให้เกิดคราบหรือความมัวหมองต่อรูปถ่ายของคุณ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย
ดังนั้นคุณจึงควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดเลนส์เพื่อภาพที่สวยและคมชัดโดยให้คุณใช้ผ้าบางๆ หรือเสื้อยืดเพื่อเช็ดเลนส์
ถ้าคุณอยู่ในสภาวะที่มีฝุ่นเยอะ หรือ ตามชายหาดก็ให้คุณเป่าเลนส์เพื่อให้ทรายหรือฝุ่นนั้นออกไปก่อน
การทำความสะอาดเลนส์นั้นอาจดูเป็นอะไรที่ชัดเจนที่ทุกคนพึงรู้ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีหลายคนลืมสิ่งนี้ไปอย่างง่ายดาย ดังนั้นให้คุณเคยชินกับการหมั่นทำความสะอาดเลนส์เพื่อสร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับความกระจ่างใสของรูป
ถึงแม้ว่าเลนส์ของคุณจะสะอาดแล้ว บางครั้ง subject ของคุณอาจดูไม่คมชัดเสมอไป นั่นเป็นเพราะการโฟกัสโดยอัตโนมัติของกล้องไม่ได้โฟกัสไปที่ที่คุณต้องการ คุณจึงควรปรับจุดโฟกัสด้วยมือคุณเอง เพื่อให้ subject นั้นมีความคมชัดตามที่ต้องการ
การปรับหรือตั้งค่าโฟกัสบนกล้องนั้นง่ายดายเพียงแค่ตอนที่คุณเปิดการใช้งานกล้องนั้น ให้คุณแตะไปบนหน้าจอในบริเวณที่คุณต้องการตั้งโฟกัส (ซึ่งก็มักจะเป็นที่ subject หลักของคุณ) และจะมีกล่องสีเหลืองปรากฏขึ้น
จากนั้นให้คุณกดปุ่มชัตเตอร์เพื่อจับภาพ โดยคุณจะเห็นว่าบริเวณที่คุณตั้งโฟกัส (ที่มีกล่องสีเหลืองนั้น) จะดูคมชัดมากกว่าบริเวณรอบข้าง
การตั้งโฟกัสเป็นหนึ่งในทริคการถ่ายภาพบนโทรศัพท์มือถือที่ดีที่สุดที่คุณควรเรียนรู้เพราะนอกจากมันจะเป็นอะไรที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน มันยังช่วยทำให้รูปของคุณมีความคมชัดที่ทำให้คนดูต้องตะลึงได้มากทีเดียว
คุณรู้หรือไม่ว่าส่วนใหญ่แล้วรูปที่คุณถ่ายออกมามักจะดูสว่างหรือมืดเกินไปกว่าที่ควรจะเป็น
ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ดังนั้นเราจะทำอย่างไรเพื่อมั่นใจว่ารูปที่เราถ่ายมีความสว่างที่เหมาะสม
การแก้ไขนั้นง่ายดาย เพียงแค่คุณปรับความสว่างก่อนที่จะกดปุ่มถ่ายภาพ โดยการสัมผัสไปที่หน้าจอ เมื่อเห็นกล่องสีเหลืองพร้อมเส้นตรงที่อยู่ข้างๆก็ให้คุณเลื่อนขึ้นลงตามเส้นนั้นเพื่อปรับความสว่างตามที่คุณต้องการ โดยการเลื่อนลงจะทำให้รูปดูมืดลง ส่วนการเลื่อนขึ้นจะทำให้รูปดูสว่างขึ้น
ที่สำคัญคือให้คุณมั่นใจว่า ส่วนที่สำคัญที่สุดในรูปนั้นได้รับแสงสว่างในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งจะมีผลทำให้สีและรายละเอียดต่างๆถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แน่นอนว่าในบางครั้งคุณอาจตั้งใจให้รูปของคุณดูมืดหรือสว่างเกินไป เช่น คุณอาจลดการรับแสงเพื่อที่จะสร้างภาพถ่าย Silhouette (โครงร่างสีดำ) เพื่อให้ subject ดูมืดมน หรือคุณอาจเพิ่มแสงให้กับรูปถ่ายที่ต้องการความสว่างในการสร้างจุดที่น่าสนใจ
คุณจะเห็นได้ว่า การปรับค่าแสงบนไอโฟนมีผลที่น่าอัศจรรย์ต่อความสว่างบนรูปของคุณ อย่างไรก็ตามถ้าคุณต้องการถ่ายภาพฉากที่มีความแตกต่างอย่างมากเพื่อการเปรียบเทียบ มันอาจเป็นเรื่องยากที่จะเข้าถึงการรับแสงที่ดีได้
แต่โชคดีที่กล้องบนไอโฟนของคุณมีทางแก้ปัญหาในการจับภาพด้วยปริมาณแสงที่เหมาะสมสำหรับฉากที่มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
การถ่ายภาพที่มี high contrast อาจเป็นปัญหาเวลาหาปริมาณแสงที่เหมาะสม เพราะภาพแบบนี้จะมีฉากที่ประกอบด้วยทั้งส่วนที่มืดและสว่าง เช่น ทิวทัศน์ที่มีท้องฟ้าสว่างและพื้นหน้าด้านล่างที่มืดในรูปเดียวกัน
นั่นเพราะเมื่อคุณถ่ายภาพ มันเป็นเรื่องยากของกล้องในการจับภาพทั้งส่วนที่มืดและสว่างไปพร้อมๆกัน ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหา 2 อย่างนั่นคือ ส่วนที่มืดจะดูมืดไป หรือ ส่วนที่สว่างจะดูสว่างจ้ามากเกินไป ทำให้เสียสมดุลของความสว่างไป
โชคดีที่กล้องบนไอโฟนนั้นมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยให้รูปถ่ายนั้นได้รับแสงอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเราเรียกมันว่า HDR (High Dynamic Range) ที่จะมาช่วยให้คุณจับภาพที่มีทั้งส่วนสว่างและมืดในฉากเดียวกัน
การถ่ายภาพ HDR ด้วยไอโฟนของคุณก็ทำได้ เพียงแค่เช็คดูว่า HDR ถูกตั้งค่าอย่างเหมาะสมโดยการให้คุณไปที่ Setting บน Home screen และเลือก Camera
ให้คุณดูว่าปุ่ม Smart HDR นั่นปิดอยู่ เพราะถ้ามันเปิดการทำงานอยู่ HDR จะไม่ปรากฏบนหน้าจอการใช้งานของกล้อง และให้ดูว่าปุ่ม Normal Photo นั้นเปิดอยู่เพื่อให้ไอโฟนของคุณเก็บภาพที่ไม่ได้เป็น HDR ไว้ด้วย
จากนั้นให้ออกจาก Settings และเปิดการใช้งานกล้อง และดูว่าไอคอน HDR นั้นปรากฏอยู่ด้านบนของหน้าจอ ซึ่งเมื่อมี HDR คุณก็จะสามารถเก็บภาพที่มีแสงส่องสว่างอย่างทั่วถึงในฉากการถ่ายภาพของคุณ
คุณอาจคิดว่านี่ไม่น่าเป็นไปได้สำหรับการถ่ายภาพบนไอโฟน เพราะปกติแล้วคุณต้องใช้กล้องแบบ DSLR ในการเบลอพื้นหลังบนรูปของคุณ แต่ถ้ากล้องบนไอโฟนคุณมีโหมด portrait และก็ สิ่งนี้จะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายเลยล่ะ
โดยโหมด portrait นั้นจะมีอยู่ในแอปพลิเคชันกล้องถ่ายรูปบนไอโฟนรุ่นต่างๆดังนี้
XS
XS Max
XR
X
8 plus
7 plus
และ Portrait mode นี่เองจะเป็นตัวที่ใช้ software สร้างผลลัพธ์เชิงลึกที่ทำให้ subject บนพื้นหน้าดูคมชัดและทำให้พื้นหลังดูเบลอๆไป
ส่วนการใช้งานนั้นก็ง่ายดายเพียงแค่กดปุ่ม portrait ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอเมื่อคุณเปิดการใช้งานกล้องถ่ายรูปบนไอโฟน โดยให้คุณจัดวาง subject ให้อยู่ระหว่าง 2-8 ฟุตจากกล้อง เพราะระบบ depth effect ของ Portrait mode จะไม่ทำงานถ้า subject ของคุณอยู่ใกล้หรือไกลเกินไป จากนั้นเมื่อคุณเห็นตัวอักษรสีเหลืองขึ้นมาว่า natural light นั่นแปลว่าระบบพร้อมที่จะถ่ายภาพแล้ว โดยให้คุณกดปุ่ม shutter เพื่อจับภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจที่มีพื้นหลังดูเบลอๆอันสวยงาม
แต่ในบางครั้งคุณอาจไม่ชอบให้เกิดการเบลอในรูปถ่าย นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย คุณสามารถกำจัดความเบลอและปรับภาพให้สู่ภาวะปกติได้โดยเปิดรูปที่คุณถ่ายไว้ในแอปรูปถ่ายและกดปุ่ม Edit หลังจากนั้นให้กดปุ่มตัวอักษร Portrait สีเหลืองที่ด้านบนของหน้าจอเพื่อกำจัดความเบลอของพื้นหลังออกไป
ถ้าหากว่าไอโฟนของคุณเป็นรุ่น XS / XS Max / XR และก็ portrait mode ของคุณก็จะมีคุณสมบัติพิเศษที่เรียกว่า depth-control หรือการควบคุมเชิงความลึก ซึ่งจะเป็นตัวปรับระดับความเบลอของพื้นหลังเมื่อคุณถ่ายภาพเสร็จแล้ว
คุณสามารถทำได้โดยเปิดรูปภาพในแอพที่เก็บรูป และกด edit ซึ่งคุณจะเห็นที่เลื่อนข้างล่างภาพ โดยการเลื่อนไปด้านซ้ายจะทำให้ความเบลอมีมากขึ้น และด้านขวาทำให้ความเบลอมีน้อยลงตามลำดับ เมื่อคุณทำเสร็จแล้วให้กดปุ่ม done เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลงไว้
บางครั้งคุณอาจรู้สึกว่าการจับภาพที่มี subject กำลังเคลื่อนไหวให้ได้ดีและคมชัดนั้นเป็นเรื่องยากใช่ไหม หรือ บางครั้งคุณพลาดชอตดีๆไปเพราะคุณไม่ได้กดปุ่มชัตเตอร์ในเวลาที่เหมาะสมหรือไม่
นี่เป็นปัญหาที่มักพบเจอในยามที่ต้องถ่ายรูปที่ subject มีการเคลื่อนไหวอยู่ แต่โชคดีที่ไอโฟนมีคุณสมบัติพิเศษของกล้องที่ช่วยให้คุณถ่ายรูปแอ็คชั่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งเราเรียกมันว่า Burst Mode ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อถ่ายภาพในลักษณะนี้โดยเฉพาะ
ซึ่งการใช้งาน Burst mode นั้นทำได้โดยกดปุ่ม shutter แช่ทิ้งไว้ กล้องจะจับภาพด้วยความเร็วประมาณ 10 รูปต่อ 1 วินาที จนกว่าคุณจะปล่อยนิ้วมือออก ด้วยวิธีนี้คุณก็จะมั่นใจได้ว่าคุณจะมีอย่างน้อย 1 รูปที่ subject ของคุณอยู่ในตำแหน่งและท่าทางที่สมบูรณ์แบบ
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้รูปมีมากเกินไปในอัลบั้ม คุณอาจเก็บรูปที่ดีที่สุดที่ได้จาก Burst mode และลบที่เหลือออก ซึ่งสามารถทำได้โดย
เปิดอัลบั้มรูปถ่าย หารูปที่คุณต้องการเก็บไว้และกดเปิดมันขึ้นมา จากนั้นกด select ที่ด้านล่างของหน้าจอและเลือกดูรูปที่คุณชอบ ตามด้วยกดปุ่ม done และเก็บรูปที่คุณเลือกไว้
Burst mode เป็นคุณสมบัติพิเศษบนกล้องที่ใช้งานได้ง่าย และเป็นตัวช่วยให้คุณได้รูปจากการถ่ายภาพแอคชั่นอันน่าตื่นตาตื่นใจที่มีคุณภาพดีขึ้น ดังนั้นอย่าลืมใช้มันเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเคลื่อนไหวหรืออะไรที่คาดการณ์ไม่ได้ในฉาก
Burst mode ยังเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมในการถ่ายภาพเด็กและสัตว์ต่างๆ รวมไปถึงถนนที่มีผู้คนเดินผ่านไปมา หรือ การสาดน้ำก็ได้ ทำให้การถ่ายรูปบนมือถือของคุณได้รับการยกระดับไปอีกขั้นหนึ่งได้อีกด้วย
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional". |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other. |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |